รมว.แรงงาน แจงผลการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกรณีปั้นจั่นล้มทับห้องเช่า ณ โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ประกันสังคมลงพื้นที่อำนวยความสะดวก

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความห่วงใยและสอบถามถึงกรณีปั้นจั่นหอสูงได้ล้มทับห้องเช่าชั้นเดียว ณ โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม K-Series Bangplee อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เร่งให้กระทรวงแรงงานดำเนินการช่วยเหลือ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยการก่อสร้างดังกล่าวมี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัท คอนสตรัคชั่น ไลน์ จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง จากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ผู้เสียชีวิตชื่อนายเฉลิม จำนง อายุ 48 ปี มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 โดยส่งเงินสมทบมาแล้ว 4 งวด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคม ได้พบน้องชายผู้เสียชีวิตและอำนวยความสะดวกให้นางฉลวย ชูโต ซึ่งเป็นมารดาและเป็นทายาทตามกฎหมายมีสิทธิได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 25,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 2,874 บาท โดยขอรับเงินดังกล่าวที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งนางฉลวยฯ มีภูมิลำเนาอยู่ พร้อมได้ประสานส่งศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจที่วัดปางสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยบริษัท คอนสตรัคชั่น ไลน์ จำกัดรับเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม 4 วัน และทำบุญ 2 วัน มูลค่าเงินช่วยเหลือประมาณ 200,000 บาท สำหรับผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นการบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านได้ ได้แก่ นายเอี่ยม กันธิยา อายุ 24 ปี และนางสาวพิยะดา คิอินธิ อายุ 22 ปี เป็นลูกจ้างบริษัท คิม แพ็ค จำกัด สาขานิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ว ปัจจุบันเข้าทำงานตามปกติ นายสิริราช นรสาร ผู้ควบคุมปั้นจั่น ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัท คอนสตรัคชั่น ไลน์ จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้าง บาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนขวา ปัจจุบันนายจ้างให้พักรักษาตัวที่แคมป์คนงานโดยจ่ายค่าจ้างให้ตามปกติ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบที่พักอาศัยจำนวน 13 ราย บริษัทมอบเงินค่าห้องพัก รายละ 1 เดือน

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการดำเนินการตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปดำเนินการสอบข้อเท็จจริง หากพบนายจ้างปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2564 หรือข้อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป พร้อมย้ำกับชับนายจ้างกิจการงานก่อสร้างเพิ่มความระมัดระวังมิให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้อีก