กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
Department of Labour Protection and Welfare

แรงงานมีปัญหา โทรปรึกษา สายด่วน 1546

กสร. ชู ‘วันสตรีสากล’ ลุยจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมาย แนะกฎหมายควรรู้ส่งเสริมแรงงานหญิง


         กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ชู ‘วันสตรีสากล’ ปี 2565 ยกแรงงานสตรีสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย ลุยจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมาย พร้อมแนะข้อกฎหมายควรรู้ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

         นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่าวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากลซึ่งปัจจุบันแรงงานสตรีได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งในระดับผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังพบว่าสตรีที่ทำงานได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในแวดวงธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธุรกิจการส่งออก ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคและบริโภค ธุรกิจการเงิน เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นภาคธุรกิจที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานสตรีมาโดยตลอดซึ่งเห็นได้จากการกำหนดการคุ้มครองสิทธิของแรงงานสตรีไว้เป็นการเฉพาะในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541และส่งเสริมการจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมายเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานสตรี เช่น การส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการเพื่อลดความกังวลของแรงงานที่มีบุตร เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงานและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างลูกจ้างปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการจัดให้มีสถานรับเลี้ยงเด็กจำนวน 96 แห่งศูนย์เด็กเล็กวิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัยในพระราชูปถัมภ์ มีบุตรของแรงงานไทยและต่างด้าวในความดูแล 888 คน รวมถึงการจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการ2,008 แห่ง ตลอดจนการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน รวมถึงการมีส่วนร่วมเรื่องความเท่าเทียมในการทำงาน

          อธิบดี กสร.กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงานสตรีที่ควรรู้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีดังนี้ มาตรา 15 ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงโดยเท่าเทียมกันในการจ้างงาน เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้มาตรา 16 ห้ามมิให้นายจ้าง หัวหน้างานกระทำการล่วงเกิน คุกคามทางเพศต่อลูกจ้างมาตรา 38 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงทำงานเหมืองแร่หรืองานก่อสร้างที่ต้องทำใต้ดิน งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดินตั้งแต่10 เมตรขึ้นไปงานผลิตหรือขนส่งวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ มาตรา 39 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรที่มีความสั่นสะเทือนงานขับเคลื่อนหรือติดไปกับยานพาหนะงานยก หรือเข็นของหนักเกิน 15 กิโลกรัม และงานที่ทำในเรือมาตรา 39/1 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ทำงานในระหว่างเวลา 4 ทุ่ม – 6โมงเช้าทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุดมาตรา 41 ลูกจ้างหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไม่เกิน 98 วัน โดยได้รับค่าจ้าง 45 วันมาตรา 43 ห้ามมีให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพราะเหตุมีครรภ์หากฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานแรงงานหญิง เด็ก และเครือข่ายการคุ้มครองแรงงาน กองคุ้มครองแรงงาน โทรศัพท์: 0 2660 2048หรือ E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.


ข้อมูลบริการ

ร้องเรียน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 149 ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
สายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546 e-Mail: info@labour.mail.go.th
รับ-ส่งหนังสือราชการ e-Mail: saraban@labour.mail.go.th

© 2024 Your Company. All Rights Reserved.

Facebook Twitter Youtube Line - ปรึกษาปัญหาแรงงาน